ผอมได้ โดยไม่ต้องไดเอท

ผอมได้ โดยไม่ต้องไดเอท จริงเหรอ ?????

     ในปัจจุบัน ถ้าใครอยากผอมต้องนึกถึงการไดเอทเป็นอันดับแรก ในความคิดของผู้เขียน
การไดเอท จะนึกถึง การอด การงด หรือการกินให้น้อยที่สุด และต้องเลือกกิน จึงทำให้เราไม่มีแรง ถ้าหนักไปกว่านั้นอาจทำให้เราไม่สบาย เป็นโรคกระเพาะบ้าง ขาดสารอาหารบ้าง จนทนไม่ได้เลิกไดเอท  ทำให้หลังจากนั้นเราก็จะอ้วน อ้วนขึ้นมากว่าเก่าอีก

     ใครเคยได้ยินบ้างคำว่า "ทำไม่ได้ เพราะอดใจไม่ไหว" จากหลายๆคนที่กำลังลดความอ้วนอยู่ จึงทำให้เกิดคำถามว่า เจ้าพวกไขมันส่วนเกินต่างที่อยูในร่างกายของเราจะกำจัดมันได้อย่างไร

     เมื่อเราเลิกไดเอทแล้ว เราก็ต้องหาวิธีอื่นมาแทน โดยในที่นี้เราจะให้ความสำคัญกับต้นเหตุของความอ้วนมากว่าปลายเหตุ โดยที่
     1. เราต้องรู้ก่อนว่าเรากินอะไร
     2. และเราต้องรู้ว่าเรากินตอนไหน
     3. และทำไมเราต้องกิน 

     ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อความผอม
     1. เราจำได้ไหมว่าในแต่ละวันเราได้กินอะไรเข้าไปบ้าง ถ้าจำไม่ได้ เราลองมาจดบันทึกรายการอาหารที่เรากินกันดู  เพราะในบางครั้งของที่เรากินเข้าไปอาจไม่ได้มาจากความหิวก็ได้ จะมาจากความอยาก หรือเหตุผลต่างกัน
     2.  ให้ความสำคัญกับมื้ออาหารมากขึ้น โดยการกินอาหารเช้าเป็นหลัก และอาหารเย็นน้อยที่สุด
     3.  ให้เวลากับการกินให้มากที่สุด ในที่นี้จะเป็นการเคี้ยวอาหาร ควรจะเคี้ยวให้ช้า
     4.  ไม่ต้องเลิกของที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน หรือของที่ทำให้เราอ้วนได้ แต่กินให้พอเหมาะแล้ว เราชดเชยด้วยการกินข้าวให้น้อยลง เพราะการอดจะทำให้ความอยากของเราทวีคูณจนทนไม่ได้ และกับไปกินเยอะกว่าเดิม 
     5.  เลิกเห็นตู้เย็นเป็นห้างสรรพสินค้าซะที่ ที่เปิดมาแล้วก็เจอทุกอย่างที่ชอบกิน  การตุนของกินไว้เยอะๆ เป็นอุปสรรคมากๆ กับการลดความอ้วน
     6.  วางแผนการกินบ้างถ้าจำเป็น เพราะบ้างครั้งเราต้องไปกินเลี้ยง ไปดินเนอร์ ก็ไปได้ กินได้ แต่มีข้อแม้ว่า มื้อต่อไปคุณต้องกินให้น้อย และเบาที่สุด เพื่อเป็นการชดเชยกัน
     7.  สุดท้าย โปรแกรมการออกกำลังกาย ต้องมีให้ชัดเจน และควรเลือกที่เราชอบ และสามารถทำได้ถ้าเราเลือกทำที่ยากๆ หรือโดนบังแบบขอไปที่ จะทำให้เราเซ้งและเบื่อหน่าย เลิกไปในที่สุด
     เราควรมีเวลาในการออกกำลังกาย อย่างน้อยวันละ 30 นาที่ และ 3-7 วัน/สัปดาห์  เพื่อเป็นกาป้องกันการกลับมาอ้วนอีก

     เพียงแค่เราให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การใช้ชีวิตประจำวันรวมถึงการออกกำลังกาย เราก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งอดให้หมดแรง รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่จะตามมาอีกด้วย

******
อ้างอิง ข้อมูลจาก HealthToday  ปีที่ 5 ฉบับที่ 49 เมษายน 2548
 
ขอขอบคุณ ภาพจากอินเตอร์เน็ต
     


 
    

เรามา ลด ละ เลิก เพื่อบอกลาโรคอ้วนกันดีกว่า

เรามา ลด ละ เลิก เพื่อบอกลาโรคอ้วนกันดีกว่า !!!!!
     เราเคยแต่ได้ยิน การ ลด ละ เลิก อบายมุข กันมา แต่วันนี้เราจะ เปลี่ยนจากอบายมุข มาเป็นความอ้วนกัน
     ในปัจจุบัน คนไทยเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น เหตุผลมาจากเรื่องง่ายที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ต้องหวาน มัน เค็มก่อนไม่งั้นไม่แซ่บ ค่านิยมการกินอาหาร FAST FOOD ก็เป็นอีกหนึ่ง รวมทั้งหน้าที่การงานที่ต้องแข่งขันกันในปัจจุบันทำให้หาเวลาไปออกกำลังกายได้ยาก ทำให้เราต้องยอมรับสภาพของความอ้วน พร้อมทั้งของแถม ที่ต่อคิวกันมาหาเราอีกมากมาย ไม่ว่า ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน คอเรสเตอรอลสูง

     ก่อนที่เราจะบอกลาความอ้วน เราก็มารู้จัก "โรคอ้วน" กันก่อนดีกว่า

    โรคอ้วน หมายถึง สภาวะร่างกายที่มี "ไขมัน" สะสมอยู่ตามอวัยวะต่างๆ มากจนเกินไป

สาเหตุมาจาก
      1. กรรมพันธ์ุ  การที่พ่อและแม่อ้วนทั้งคู่ ก็จะมีผลทำให้ลูกอ้วนได้สูง หรือการที่พ่อหรือแม่อ้วนเพี่ยงคนเดียวก็ยังส่งผลให้ลูกอ้วนได้เหมือนกัน
     2. นิสัยการกิน เป็นคนชอบกินจุกจิก กินได้ตลอดเวลา กินได้ทุกอย่าง
     3. การไม่ออกกำลังกาย กินอย่างเดียวและกินมาก แต่ไม่มีการออกกำลังกาย
     4. อารมณ์ ไม่ว่าจะช่วงใด อารมณ์ใด ก็จะกินเป็นหลัก จะสุข เศร้า เหงา หรืออกหัก
     5. เพศ ผู้หญิงจะอ้วนมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะ ตอนตั้งครรภ์
     6. อายุ ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งอ้วนง่าย  
  
โรคที่มากับโรคอ้วน
     1. โรคไขมันในเลือดสูง
     2. โรคเบาหวาน
     3. โรคความดันโลหิดสูง
     4. โรคระบบทางเดินอาหาร
     5. และโรคมะเร็งบางประเภท 
     
     เมื่อเรารู้กันแล้วว่า โรคอ้วนเป็นอย่างไร สาเหตุ และผลพวงต่างๆ เราก็จะเข้ากระบวนการ ลด ละ และเลิก เพื่อ บอกลา โรคอ้วนกัน เริ่มจาก

     การลด จะหมายถึง การทำได้ หรือการกินได้ แต่ให้น้อยลง หรือการเว้นบ้างไม่ใช่ฉันเคยทำยังไง ฉันก็จะทำอย่างนั้นซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ ตามใจฉัน
     เราเชื่อว่า การหักดิบ (การหยุดโดยกระทันหัน) อาจจะเป็นทางเลือกที่หลายๆ คนตั้งใจจะทำ แต่ขอให้คิดสักนิดว่า  "กำลังใจของคุณเข็มแข็งพอไหม"  ถ้าไม่พอขอให้เลิกคิด เพราะว่าการที่คนเราตั้งใจจะทำอะไรและทำไม่สำเร็จ จะทำให้เราท้อ และล้มเลิกไปในที่สุด ให้เรามาเริ่มจาก 0 ไปจนถึง 100 ดีกว่า ค่อยๆไป รับรองว่าความสำเร็จไม่ไกลเกินเอื่มแน่  เรามาเริ่มลดกันดีกว่า
     ของที่เราชอบ ไม่ว่าจะทอด มัน จะหวานแค่ไหน ไม่ใช่โลกนี้จะโหดร้ายห้ามไม่ให้เรากิน
เรายังสามารถที่จะพบปะ หรือจับต้องมันได้ จากเมื่อก่อนเราเคยกินทุกมื้อ หรือทุกวัน  เราก็      เปลี่ยนเป็นกินมื้อเว้นมื้อ หรือวันเว้นวัน  เช่น การกินปลาทอด ไก่ทอด ก็เป็นปลานึ่ง ไก่ต้ม หรือลองเปลี่ยนบรรยากาศเป็นน้ำพริกผักต้มบ้างก็จะดีมาก
     ไม่ว่าจะเป็นผัก หรือผลไม้ เป็นของที่มีประโยชน์ และมีความอร่อยอยู่ในตัว จึงไม่ต้องนำไปปรุงแต่ง ไม่เชื่อลองดูนะคะ แล้วจะติดใจ

    






                                        

     การละ หรือ การหลีกเลี่ยง จะหมายถึง การที่เรารู้ว่าถ้าทำ หรือไปในที่นั้นเราก็จะอดที่จะทำเรื่องเดิมๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วนได้ ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงกันก็ควรจะทำ เพราะว่าทุกๆวาระ และทุกๆโอกาศ เป็นเหมือนเชื้อไฟให้เราฉลอง
     - ไม่ว่าจะสุข เศร้า เหงา อกหัก รักคุด กินเท่านั้น คือคำตอบ หยุดเลยค่ะ เปลี่ยนความคิดเดิมๆ เป็นการหางานอดิเรกทำ หรือการไปออกกำลังกายจะดีกว่า
     - เงินเดือนออกแล้วค่ะ ร้านไหนอร่อยเดี๋ยวเจอกัน อยากกินมานานแล้ว  คุณกำลังคิดผิดมากๆ อย่าทำอย่างนั้นโดยเด็ดขาด ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนั้น ขอแนะนำว่า ให้คุณพกเงินในกระเป๋าให้น้อยลง อันนี้ประโยชน์ 2 เด้งนะค่ะ 
     1. คิดกินเยอะ ใช้เยอะ ตอนต้นเดือน เงินคุณอยู่ไม่ถึงสิ้นเดือนแน่
     2. ป้องกันการรับประทานอาหาร ญี่ปุ่น (มาม่า) ตอนปลายเดือนที่กระเป๋าแบน เพราะการกินมากๆ จะทำให้มีโรคอื่นตามมา เพราะความเค็มในของสำเร็จรูปพวกนี้
     - วันเกิดครบรอบอีกปี ฉลองเลย  ขอเถอะค่ะ เราเปลี่ยนเป็นไปมอบความสุขให้คนอื่นบ้างดีว่ามั้ย ไปเลี้ยงเด็ก ไปทำบุญ หรือไปทำประโยชน์แก่ส่วนรวม

     การเลิก หมายถึง หยุด เราจะไม่ยุ่งเกียวกันอีก ข้อนี้สำคัญนะค่ะ  เพราะทุกอย่างจะไม่สำเร็จถ้า
   ตั้งใจเลิกแล้ว จะต้องเลิกให้ได้ นี่แหละคือ ความตั้งใจ ที่จะทำให้เรา เอาชนะททุกอย่างได้ ด้วยการปฏิบัติตัวง่าย ๆ คือ
     1.  เลิกซะนะ นิสัยการกินจุกจิก  กินได้ทุกที่  กินได้ทุกอย่าง และกินได้ทุกเวลา
     2.  เลิกนะของหวาน เพราะชีวิตเราไม่ได้ขาดความหวานขนาดนั้น  ลองหันมากินผลไม้แทนสิ รับรองคุณจะติดใจ
     3.  น้ำอัดลม เลิกซะเถอะ ถ้าต้องการความสดชื่น น้ำสะอาดเย็นๆ ซักแก้ว ความรู้สึกไม่แตกต่าง  หรือจะเป็นน้ำผลไม้ ก็ดีนะ
     4.  น้ำสะอาด วันละ 8-10 แก้วก็ดีนะ ไม่ผิดกติกา จะช่วยให้ผิวสวย 
     5.  ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 
     6.  อย่าลืม ออกกำลังกาย กันด้วยนะ

     โรคอ้วน บอกลาได้ไม่ยาก ขอให้เราตั้งใจ และจริงจังกับมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การกิน กินแต่ของที่มีประโยชน์ และหาเวลาว่างมาออกกำลังกายกันบ้าง อย่างน้อย อาทิตย์ละ 3 วัน วันละ ครึ่งชั่วโมง รับรองว่าโรคต่าง ๆ ก็จะห่างไกลจากเราแน่นอน  

 ******
สุดท้านนี้ ขอฝากเพลง สนุกไว้ฟังกันเล่นๆนะคะ

เพลง ไม่อ้วนเอาเท่าไร ของ มะลิลา บราซิลเลี่ยน  
จาก You Tube



******
อ้างอิง     ความหมายของโรคอ้วน   จาก วิกิพีเดีย       

ขอขอบคุณ 

ขอขอบคุณ วีดีโอเพลง จาก You Tube
ขอขอบคุณ  ภาพจากอินเทอร์เน็ต